Jul 2

การตกหลุมรักและการออกกำลังกาย

ลองจินตนาการว่าคุณเป็นชายหนุ่มที่มาเที่ยวป่า แล้วก็ต้องเดินข้ามสะพานไม้แคบๆ ที่สูงกว่า 80 เมตร แถมยังโคลงเคลงอีกต่างหาก

วิวข้างล่างก็สวยดีอยู่หรอก แต่คุณไม่คุ้นเคยกับความสูงขนาดนี้เลย แถมสะพานก็ยังดูไม่มั่นคงอีกด้วย มีลมมาทีไรมันเหมือนจะพลิกสะพานให้คุณร่วงลงไปข้างล่างได้ตลอด คุณจึงค่อยๆกระดึ๊บตัวข้ามสะพานนี้ไปอย่างช้าๆ

เมื่อคุณเดินไปได้สักครึ่งหนึ่ง คุณก็พบกับสาวสวยคนหนึ่งยืนอยู่ เธอบอกว่าเธอเป็นนักจิตวิทยาที่กำลังต้องการคนมาตอบแบบสอบถาม เกี่ยวกับเรื่องกลัวความสูง

เธอถามว่าคุณจะสามารถช่วยเธอได้มั้ย

คุณตอบตกลงอย่างเสียไม่ได้ ถึงอย่างไรหน้าตาเธอก็ก็น่ารักคิ้วท์ๆใช้ได้

หลังคุณทำแบบสอบถามเสร็จ นักจิตวิทยาสาวสวยคนนั้นก็ยื่นเบอร์โทรส่วนตัวของเธอมาให้คุณ และบอกให้คุณโทรมาหาหากว่าคุณอยากรู้อะไรเกี่ยวกับแบบสอบถามเพิ่มเติม จากนั้นก็ส่งยิ้มเอียงหัวให้คุณหนึ่งที

คืนนั้น คุณโทรหานักจิตวิทยาคนนั้น จริงๆแล้วคุณไม่ได้อยากรู้อะไรเกี่ยวกับแบบสอบถามหรอก คุณอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงยิ้มให้คุณมากกว่า

ครับนี่คืองานวิจัยในปี 1970 ที่ดร. Donald Dutton และ ดร.Arthur Aron นักจิตวิทยา ได้ทดลองทำขึ้น ซึ่งส่วนที่เป็นงานวิจัยจริงๆ ไม่ใช่ส่วนของแบบสอบถาม แต่สิ่งที่เขาต้องการอยากรู้จริงๆคือ จะมีหนุ่มๆกี่คนที่โทรมาหานักจิตวิทยาสาวสวย

ดร.Dutton ได้ทำการทดลองแบบเดียวกันนี้ในสะพานอีกสะพานหนึ่ง แต่เป็นสะพานที่เตี้ยและมั่นคงกว่า เพื่อดูว่าผลจากความกลัวต่อความสูงนั้น มีผลต่อการที่หนุ่มๆจะรู้สึกปิ๊งสาวมากขึ้นหรือไม่(วัดโดยการว่าเขาจะโทรมาหามากเท่าไหร่) และผลปรากฏว่า แต่น แตน แต๊น

หนุ่มๆที่เดินข้ามสะพานสูงนั้นโทรกลับมามากกว่าหนุ่มๆที่เดินข้ามสะพานเตี้ย (50% ต่อ 12.5%)

ฮั่นแน่ สาวๆหลายคนอาจจะเริ่มหูผึ่งที่ได้ยินเรื่องนี้

ใช่แล้วครับ ผมกำลังบอกว่าจริงๆแล้ว การปิ๊งนั้นอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นในแบบที่เราคิดก็ได้

 

คือปกติแล้ว  เราก็จะคิดว่า พอเราปิ๊งใครหรือตกหลุมรักใครสักคน เราก็จะรู้สึกใจสั่น ใจเต้นเร็วขึ้น แรงขึ้น อาจจะมีเหงื่อแตก หน้าร้อนผ่าว ในบางคน

แต่จริงๆแล้วถ้าเรารู้สึกใจสั่น ใจเต้น เหงื่อแตก มันก็อาจจะทำให้เราไปปิ๊งใครบางคนแทนก็ได้

ประมาณว่า ตอนที่เราเดินข้ามสะพานสูงๆ หัวใจคุณเต้นตึ๊กตั๊กๆ พอไปเจอสาวกลางสะพาน เราก็ไม่แน่ใจว่า เฮ้ย สิ่งที่เกิดขึ้นกับชั้นนี่ มันเกิดขึ้นเพราะข้ามสะพานหรือว่าเพราะว่าเราปิ๊งสาวคนนั้นวะ อะไรอย่างนั้น

ซึ่งไอ้ลักษณะใจสั่นใจเต้น มันก็ดันคล้ายกับตอนที่เรากลัว หรือตอนที่เราออกกำลังกาย (ใช่แล้ว เขามีงานวิจัยในแบบนี้กับคนที่วิ่งลู่วิ่งด้วยแหละ)

แน่นอนครับว่า ไอ้อาการใจเต้นก่อนปิ๊งทีหลังนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับผู้ชายอย่างเดียว แต่เกิดกับผู้หญิงเช่นกัน

ครั้งต่อไปลองนัดเดทที่ยิมสักที่ดูก็ดีนะครับ

 

About the Author:

Leave a Reply

*