ทำไมเราถึงมักตกหลุมรักคนนิสัยเดิมๆ
แล้วก็มักจะผิดหวังด้วยเรื่องแบบเดิมๆ ทุกครั้ง?
.
.
คุณเคยเห็นคนรู้จักกี่คนแล้วครับ ที่มักจะผิดหวังกับความรักแบบเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมาอยู่เสมอ และไม่ว่าเขาจะต้องเจ็บกับคนแบบนี้มาไม่รู้กี่ครั้ง แต่เขาก็ยังตกหลุมรักกับคนแบบเดิมอย่างไม่รู้จักจำ
.
ผมแน่ใจว่าคุณต้องมีเพื่อนที่ชอบผู้ชายเจ้าชู้แล้วก็ต้องเจ็บช้ำกับความเจ้าชู้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และแม้ว่าจะเลิกกันไปคบคนใหม่แล้ว เพื่อนของคุณคนนั้นก็ยังคงจะไปคบผู้ชายคนใหม่ที่มีกิตติศัพท์อยู่แล้วว่าแสนจะเจ้าชู้อีก
.
ผมคิดว่าคุณคงเห็นเรื่องแบบนี้มาไม่น้อยเลยใช่มั้ยครับ?
.
หรือดีไม่ดี ตอนนี้คุณก็อาจจะเป็นคนๆนั้นอยู่ก็ได้ ใช่มั้ยครับ?
ผมอยากจะลองอธิบายเรื่องนี้ให้ฟังแบบง่ายๆ ด้วยการทฤษฎีนี้ครับ
.
.
ในปี 1980 นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน Harville Hendrix ได้สังเกตว่ามีคนมากมายที่มีปัญหาแบบนี้ จึงลองตั้งทฤษฎีใหม่ที่มีชื่อว่า 'Imago Theory' ขึ้นมา
.
ทฤษฎีนี้ได้อธิบายว่า ทุกคนมีภาวะพร่องทางจิตใจบางด้านที่ไม่ได้ถูกเติมเต็มจากการเลี้ยงดูในวัยเด็ก เมื่อโตขึ้นมาด้านที่ไม่ได้ถูกเติมเต็มนี้ก็ยังคงอยู่ และเราก็จะถูกดึงดูดจากคนที่มีด้านที่เราขาดอยู่โดยไม่รู้ตัว เช่น เราอาจจะเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง เราก็มักจะชอบคนที่มั่นใจในตัวเองมากๆ หรือถ้าเราเป็นคนเจ้าเหตุผลมากๆ เราก็มักจะชอบคนที่ใช้อารมณ์ความรู้สึกมากๆ
.
แบบว่าฉันชอบคนๆ นี้ เพราะเขามีสิ่งที่ฉันไม่มี เขาทำในสิ่งที่ฉันทำไม่ได้ (เรื่องนี้จะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว เหมือนเป็นระบบอัตโนมัติของจิตใจเราเลย ลองกลับไปสังเกตอดีตที่ผ่านมาของคุณดูครับ)
.
ระหว่างที่เราตกหลุมรัก ด้วยอิทธิพลของฮอร์โมนหลายชนิด ทำให้เรามองเห็นถึงแต่ข้อดีของสิ่งที่เราพร่องในตัวของอีกคนนึง (เธอมั่นใจจัง เท่จังเลย / เธอใช้ความรู้สึกในการตัดสินใจ มันช่างมีเสน่ห์ ช่างน่าค้นหาเหลือเกิน)
.
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ตอนที่ช่วงเวลาตกหลุมรักผ่านพ้นไปแล้ว (6เดือน-2ปีโดยประมาณ) เราก็จะเริ่มเห็นข้อเสียของสิ่งที่เราพร่องชัดเจนมากขึ้น จากตัวอย่างเดิม ถ้าเราชอบคนที่มั่นใจในตัวเองมากๆ เราก็จะเริ่มเห็นว่าคู่ของเรานั้นเป็นคนที่ไม่ฟังอะไรเราเลย หรือถ้าเราชอบที่ใช้อารมณ์ความรู้สึกมากๆ เราก็อาจจะเริ่มเห็นว่าคู่ของเรา ไร้เหตุผล อ่อนไหว ขึ้นๆ ลงๆ
.
แล้วทีนี้ล่ะครับ ตอนที่ "ความจี๊ด" เริ่มมาเยือนชีวิตคู่ของเรา
.
เราจะเริ่มทะเลาะกับแฟนด้วยเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ เราจะเริ่มรู้สึกว่าพฤติกรรมที่เขาทำเป็นเรื่องรับไม่ได้ คุณจะเริ่มรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไป (แต่ถ้าหากถามเขาดู เขาจะบอกว่า เขาก็ทำแบบนี้ เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว)
.
.
คุณอยากให้เขาเปลี่ยน! เขาต้องเปลี่ยน!

และวงเวียนแห่งความจี๊ดนี้จะไม่หมดไป จนกว่าคุณจะเลิกรากับเขา...

(ผมคงใจร้ายไปหน่อย ถ้าตัดจบแค่ตรงนี้)

หรือ

คุณเริ่มเข้าใจว่าสิ่งที่คุณพร่องไปคืออะไร และคุณจะเติมเต็มสิ่งนั้นด้วยตัวคุณเองได้อย่างไร โดยไม่ต้องเอาของคนอื่นมาเติมให้คุณ
.
แทนที่จะพยายามหาทางเปลี่ยนคู่ของคุณ ตระหนักรู้ว่าปัญหาของคุณคืออะไร แล้วพูดคุยขอความช่วยเหลือจากคู่ของคุณแทน
.
เช่น หากคุณกลัวการถูกทิ้ง คุณอาจจะรู้สึกวิตกกังวลอย่างมาก ตอนที่แฟนของคุณออกไปข้างนอกกับเพื่อนๆ ของเขา แน่นอนว่าคุณคงไม่สามารถพกแฟนของคุณติดตัวคุณไปตลอดเหมือนห้อยพวงกุญแจ แต่คุณสามารถพูดคุย บอกถึงปัญหาและความกลัวของคุณกับเขา อาจจะขอให้เขาช่วยกอดคุณและบอกว่าเขาจะกลับมา (หรือลองช่วยกันคิดวิธีที่จะทำให้คุณทั้งสองคนรู้สึกโอเคทั้งคู่ก็ได้)
.
แค่นี้ มันก็ช่วยให้ทั้งแฟนของคุณและคุณรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมมาก
.
ขอให้มีความสุขกับความรักอีกครั้งครับ

----------------------
อย่าลืมกด like และ follow เพจของเราเพื่อติดตามบทความและกิจกรรมดีๆจากเรานะครับ

references
- Love: The Psychology of Attraction by Leslie Becker-Phelps Ph.D.
- http://www.livinginhealthyconnection.com/about-imago.html