"มันไม่สปาร์คอ่ะ!"

"อยู่กับเขามันไม่รู้สึกใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆ มันรู้สึกไม่ใช่อ่ะ"

"แต่ที่เคยเล่ามา ไอ้คนที่ทำให้ใจเต้นตุ๊มๆต่อม ของแกนี่ พังทุกคนเลยนะ"

ครับ น้องคนนี้มักจะประสบปัญหาเจอผู้ชายพังๆ นิสัยแบบเดียวกัน ลอกแบบกันมา เป็นซี่รี่ส์ไม่รู้กี่คนแล้ว เพราะว่าผู้ชายแบบนี้มัน "สปาร์ค" นี่แหละ

ผมว่า ผู้หญิงหลายคนก็น่าจะคล้ายๆกัน คือเลือกผู้ชายจากความรู้สึก จากสัญชาตญาณ (ผู้ชายที่เป็นแบบนี้ก็น่าจะมีเหมือนกันแต่น้อยกว่า)

ซึ่งก็แน่นอนว่าถ้าผู้ชายที่มาจีบคุณ ไม่ใช่สเป็คคุณจริงๆ คุณก็ย่อมไม่รู้สึก "สปาร์ค" และเมื่อเขาไม่ใช่คนที่เข้ากับคุณได้ คุณก็ไม่ควรเสียเวลากับเขา แต่มันก็มี ผู้หญิงหลายคนมักจะหลงติดกับวงจรผู้ชายพังๆซ้ำๆ เพราะว่า ผู้ชายเหล่านี้ทำให้พวกเธอรู้สึก "สปาร์ค" เช่นกัน

แล้วเราควรทำอย่างไรเล่า

ครับ theory of love ก็ย่อมมีทฤษฎีมาให้คุณเหมือนเดิม

นักจิตวิทยาชาวอเมริกันสองคนที่ชื่อ Elaine Hatfield และ Ellen Berscheid ได้ตั้งทฤษฎีที่มีชื่อว่า "two-factor theory of love" ทฤษฎีบอกว่า คนเราเวลาเลือกคู่มักจะใช้ความรู้สึกตื่นเต้น ตุ๊มๆต่อมๆ หน้าแดง เหงื่อแตก ในการบอกว่าคนๆนี้ คือคนที่ใช่ และเมื่อไม่ตุ๊มๆต่อมๆ ก็แปลว่าไม่ใช่
ซึ่งเขาก็นำเรื่องนี้ไปวิจัยต่อ ก็ได้ผลที่คาดไม่ถึงด้วยว่า หลังจากการทำกิจกรรมที่ทำให้ใจเต้นแรง เช่น การออกกำลังกาย จะทำให้ผู้หญิงมีโอกาสตกหลุมรักผู้ชายมากกว่า

เรื่องนี้อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับฝ่ายชาย เพราะการพาผู้หญิงไปเดทด้วยกิจกรรมที่ทำให้หัวใจเต้นแรง(เช่นกิจกรรมที่หวาดเสียวหรือใช้แรงมากๆ) จะสร้างโอกาสให้กับคุณมากกว่า

แต่เป็นข่าวที่ไม่ค่อยดีสำหรับฝ่ายหญิงนัก เพราะฟังแล้วดูเหมือนว่า สัญชาตญาณ "สปาร์ค" นี้อาจจะเชื่อไม่ได้เสมอไป

เขาจึงแนะนำให้เรา อย่าเชื่อ "สปาร์ค" มากนัก โดยเฉพาะคนที่มักจะติดกับวงจรเดิมๆเพราะความ "สปาร์ค" อย่าเพิ่งให้อดรีนาลีนเข้ามาทำให้สติสตังของคุณหลุดลอยตามเขาไป เราอาจจะลองไปเดทกับคนที่คุณคิดว่า เขาใช่(หรือไม่ใช่) อีกหลายๆที แล้วดูว่าพฤติกรรมของเขา เป็นพฤติกรรมที่คุณคิดว่ามันจะเวิร์คมั้ย ถ้าเขามาเป็นคู่ของคุณ

ฝึกรักด้วยเหตุผลเสียบ้าง ถ้าไม่อยากจะพลาดครั้งต่อไปครับ

เรื่องนี้ตรงกับคุณยังไงบ้าง ช่วยแชร์ความเห็นกันหน่อยครับ

----------
อย่าลืมกด like และ follow เพจของเรา เพื่อติดตามบทความและกิจกรรมดีๆ ที่จะทำให้ชีวิตรักของคุณดีขึ้นด้วยนะครับ

references:
-Love: The Psychology of Attraction by Leslie Becker-Phelps Ph.D.