วันก่อนไปอ่านเจอบทความหนึ่งของ wired แล้วชอบมาก เพราะเป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่ใช้คณิตศาสตร์ในการตามหารักแท้ของเค้าจากเว็บไซต์หาคู่ OKCupid ซึ่งทำให้หนุ่มเนิร์ดๆเฉิ่มๆคนนี้กลายเป็นชายหนุ่มโคตรฮอตและออกเดตกว่า 88 เดต ภายในเวลาประมาณ 2 เดือน(คือพี่แกออกเดตกับผู้หญิงเฉลี่ยวันละ 2 คน) ก็เลยแปลมาให้อ่านซะหน่อย เพราะสนุกมากกับความบ้าและเนิร์ดของแกจริงๆ(ที่พีคคือดันได้ผลด้วย) ย้ำไว้ก่อนเลยว่า ยาวโคตรๆจ้า
ถึงแม้จะมีชายหลายคนที่ต้องเครียดจากการการที่ตัวเองผมบางหรือหัวล้าน หลายคนต้องหาผลิตภัณฑ์มาบำรุง มาแปะ มาซ่อน หมดเงินไปมากมาย เพื่อให้ผมที่หัวยังคงดกดำ สาวๆจะได้ไม่ยี้ แต่การวิจัยเมื่อไม่นานมานี้ ได้ออกมาบอกว่า การหัวล้านก็อาจจะไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป และมันก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งได้เช่นกัน มาเล่าถึงข้อมูลคร่าวๆของเรื่องหัวล้านกันก่อนดีกว่า เมื่ออายุ 35 ปี ผู้ชายประมาณ 45% จะเริ่มรู้สึกถึงผมที่บางลง และเมื่ออายุ 60 ปีนี้ ตัวเลขก็พุ่งไปถึง 65% และตัวเลขเหล่านี้ก็พบพอๆกันในทุกเชื้อชาติ นักวิทยาศาสตร์จึงเริ่มสงสัยว่า หากหัวล้านมันมีแต่ข้อเสีย(คือมีแต่คนยี้) ตามหลัก Natural selection แล้ว เหตุใดมันจึงไปหายไปจากวิวัฒนาการของมนุษย์ หลายปีก่อน Dr.Frank Muscarella จากมหาวิทยาลัย Barry ในฟลอริดา ได้ทำการทดลองว่า เหตุใดหัวล้านนั้นจึงยังคงหลงเหลืออยู่ในวิวัฒนาการของมนุษย์เรา ด้วยการให้คนทั่วไปให้คะแนนผู้ชายตัวอย่างในสี่ด้านด้วยกัน นั่นคือ รูปร่างหน้าตา ความเกรี้ยวกราด การประนีประนอม และวุฒิภาวะ(นอกจากนั้นรวมถึงความซื่อสัตย์ ความฉลาด และสถานะทางสังคม) ผลออกมาว่า ผู้ชายที่ผมดกดำเต็มหัวนั้นได้คะแนนด้านวุฒิภาวะต่ำที่สุด ในขณะที่ผู้ชายที่หัวล้านนั้นได้คะแนนวุฒิภาวะสูงที่สุด Dr.Frank Muscarella ซึ่งผลคะแนนด้านการประนีประนอมก็ออกมาในลักษณะเดียวกัน ส่วนความเกรี้ยวกราดนั้นผลออกมาตรงกันข้ามกันคือผู้ชายหัวล้านนั้นได้คะแนนความเกรี้ยวกราดน้อยที่สุด […]